“ชัยพันธ์ ศรีคชไกร ชื่อนี้มีแต่ให้ ”สังคมไทย สังคมสร้างภาพ 30 ปี วงการสื่อสารมวลชน คนนี้มีแต่ให้ เสียสละทรัพย์ตนเอง เสียสละเวลา ช่วยเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก
สำนักงานข่าวหนังสือพิมพ์STNEWS รายงานวันที่ 24 เมษายน 2567 เวลา 11.00 น. ณ ชายแดน ตำบลสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เกิดการสู้รบทหารเมียนมาร์ กับ กลุ่มทหารต่อต้านกระเหรี่ยง KNU นายสิทธิชัย สุขโรจน์ เจ้าของตลาดศูนย์การค้าจังหวัดกำแพงเพชร ตลาดสดใหญ่สุดของจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าของตลาดใจบุญ ชอบช่วยเหลือสังคม และมีมือกระบี่คู่ใจ เคมีตรงกันชอบช่วยเหลือสังคม นายชัยพันธ์ ศรีคชไกร ผอ.หนังสือพิมพ์เพชรกำแพงนิวส์ “ฉายา พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้ ”อีก 1 สื่อน้ำดี ไม่เคยขอค่าน้ำมันรถ ไม่รับเงินสนับสนุน จากองค์กรใด มาให้นำเสนอข่าวชี้นำ นายสิทธิชัย เปรยกับ ผอ.ชัยพันธ์
เราจะทำอย่างไรที่พอจะช่วยเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกทีหนีพิษภัยสงคราม แย่งชิงอำนาจ ผลประโยชน์ แต่กรรมมาตกกับประชาชนชาวเมียนมา ต้องอพยพข้ามน้ำมาหลบภัย ไม่มีอาหารกินประทังชีวิต ผอ.ชัยพันธ์ เด้งรับผมขอเป็นสะพานบุญเบื้องต้นผมบริจาคข้าว 10 กระสอบใหญ่ เจ้าของตลาดสด บอกดีมากอย่างนั้นขอบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา อยากช่วยเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ร้านค้าในตลาดสด และในจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมด้วยช่วยกัน เต็มคันรถ
นายชัยพันธ์ ศรีคชไกร ผู้จัดการฝ่ายบริหารตลาดฯ/ผอ.หนังสือพิมพ์เพชรกำแพงนิวส์ กล่าวว่า มีความยินดีมากที่ได้มาส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในครั้งนี้ จากที่ได้มาสัมผัสกับ ผู้หลบหนีภัยสู้รบ เห็นเด็กๆตัวเล็กๆแล้วรู้สึกสงสารน้ำตาไหล เห็นความไร้เดียงสา พอได้รับอาหาร ก็หยิบใส่ปากทันทีด้วยความหิวโหย อากาศก็ร้อนมาก 40 กว่าองศา อยากให้การสู้รบจบลงเร็วๆหรือไม่ก็มีการเจรจากันจะได้ไม่เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้
ร้านเล้งใหญ่, ร้านกิมเส็ง2 และชนเผ่าที่ทำงานอยู่ในตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชร ร่วมกับ นางลัดดาวัลย์ เพชรเศษ กิ่งกาชาดอำเภอแม่สอด พร้อมคณะ, นางชญาภา สุบรรณพงษ์ ปลัดอำเภอแม่สอด พร้อมด้วย พระครูพินิต ธรรมวิธาน เจ้าอาวาสวัดมงคลนิมิต ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนำสิ่งของและร่วมแจกถุงยังชีพ ให้กับชาวเมียนมาประมาณ 600 กว่าคน ที่เดินทางหลบหนีภัยสู้รบ ผ่านชายแดนเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ โดยข้ามแม่น้ำเมยมายังฝั่งไทย มาพักยังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่ฝ่ายปกครองได้จัดเตรียมไว้ ให้กลับชาวเมียนมาที่หลบหนีภัยสู้รบตามหลักสิทธิมนุษย์
การสู้รบระหว่างกลุ่มกะเหรี่ยง KNU กับกองทัพเมียนมาในเมืองเมียวดี ติดกับชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทวีความตึงเครียดในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังกองกำลังติดอาวุธ KNLA ของกลุ่มกะเหรี่ยง KNU เปิดฉากใช้เครื่องยิงลูกระเบิดและโดรนโจมตีทหารกองพัน 275 ราว 150 คน ซึ่งปักหลักอยู่บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 โดยเกิดการปะทะรุนแรงตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 เมษายน) มีเสียงปืนและระเบิดดังเป็นระยะ ขณะที่กองทัพเมียนมาส่งเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดโจมตีในพื้นที่หลายระลอก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนเมียนมาจำนวนมากอพยพหนีการสู้รบข้ามมาฝั่งไทย ท่ามกลางการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ของฝ่ายความมั่นคงไทย โดยการสู้รบนี้ยังไม่สิ้นสุด และยังไม่แน่ว่าจะรุนแรงมากขึ้นอีกหรือไม่
ผู้อพยพทะลักไทย
ผลจากการสู้รบตลอด 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 คน ขณะที่มีชาวเมียนมาทยอยอพยพหนีการสู้รบมาอาศัยอยู่ริมแม่น้ำเมยติดกับชายแดนไทย และเกือบ 3,000 คนได้อพยพข้ามมาฝั่งไทย ซึ่งทางการไทยได้จัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 4 แห่งในแม่สอดไว้รองรับ
อย่างไรก็ตาม กองทัพเมียนมายังคงทิ้งระเบิดโจมตีเป็นระยะจนถึงช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดเช้าวันนี้ พบว่าการสู้รบดูเหมือนจะสงบลง ทำให้ผู้อพยพกว่า 1,200 คนตัดสินใจเดินทางกลับไปยังเมียวดีแล้ว
ส่วนบรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 พบว่าตอนนี้ปิดทำการชั่วคราว และจะอนุญาตให้มีการข้ามแดนได้เฉพาะผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจะมีการจัดตั้ง ‘วอร์รูม’ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพและหน่วยงานด้านความมั่นคงเป็นหลัก เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ
ผู้สื่อข่าวSTNEWS รายงานว่าฝั่งชายแดนประเทศเมียนมา มีบ่อนคาสิโน ขนาดใหญ่ 14 บ่อนจ่าย ค่าคุ้มครองให้ พ.อ. หม่อง ชิตตู่ ผู้นำBGF เดือนละ 2 ล้านบาท ต่อ 1 บ่อนคาสิโน และยังเก็บค่าคุ้มครอง ชเวโก๊กโก๋ ที่มีบ่อนคาสิโนของนายทุนจากประเทศจีน พื้นชายแดนติดกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถือเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่กองกำลังกลุ่มBGF และกระเหรี่ยงKNU สะสมกองกำลัง อาวุธ ต่อสู้รบกับรัฐบาลทหารเมียนมาโดยไม่เกรงกลัว เพราะได้ เงินจากบ่อนคาสิโน เป็นปัจจัยสำคัญท่อน้ำเลี้ยงอย่างดี ทำให้นักรบแห่งชาติพันธุ์รัฐกระเหรี่ยงแข็งแกร่ง
ภาพ- ธนพัฒน์ จันทรังษี /ข่าว-
น.ส.จันทกานต์ เรืองอิ่ม
น.ส.ญาณพันธุ์ จิตมณี
น.ส.ณัฐญาพร ส่องสว่าง
น.ส.ธนัทอร พิลาถ้อย
น.ส.อภิชญา มีผิว
น.ส.อมราพร คงสิพัฒน์
น.ส.พัณณิตา สายสินธุ์
น.ส.เกล้ากรัต พลที
น.ส.ประภาศิริ ประฉิมมะ
นาย ภูดิศ ฤทธิ์คง
นางสาวเก้าตะวัน ชื่นอำพัน
นางสาวปัทมา เจริญรส
นางสาวณัฏฐนันท์ เกตุสิงห์
นสพ.ST NEWS ออนไลน์