Wednesday, May 1, 2024
Latest:
ทั่วไป

”สิ้น เจ้าของวลี“ฮวงจุ้ยประเทศไทย เป็นฮวงจุ้ยชาวบ้าน ฮวงจุ้ยของผมเป็นฮวงจุ้ยของพระมหากษัตริย์”เจ้าของตลาดสดทุ่งสนุ่น 2004 หจก.เวิล์ดเทรด 1689 ร้านทองณัทพงษ์โกลด์ ศิษย์อาจารย์หม่า สุดอาลัย อาจารย์ผู้มีแต่ให้ ปิดตำนานปรมาจารย์1 ใน 3 ของโลก ผู้ที่ดูฮวงจุ้ยทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา

สำนักงานข่าวหนังสือพิมพ์STNEWS รายงานวันที่ 12 เมษายน 2567 คุณประยูร หู้เต็ม เจ้าของตลาดสดทุ่งสนุ่น 2004 หจก.เวิล์ดเทรด 1689 นายณัทพงษ์ พิลาถ้อย เจ้าของร้านทองณัทพงษ์โกลด์ ตลาดทุ่งสนุ่น อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร โพสต์เฟสบุ๊ค เศร้า “ด้วยรักอาลัยยิ่ง ท่านอาจารย์หม่าได้จากไปอย่างสงบ ”ผู้สื่อข่าว โทรศัพท์สัมภาษณ์ สอบถาม คุณประยูร ทราบข่าวการเสียชีวิตอาจารย์หม่าเมื่อไหร่ ลูกชายอยู่ในกลุ่มไลน์ลูกศิษย์อาจารย์หม่า มีการส่งข้อความภายในกลุ่มลูกศิษย์และมีการบอกต่อๆกันเป็นความลับห้ามเผยแพร่ข่าวการเสียชีวิต เพราะยังจัดสถานที่พิธีเคารพศพไม่แล้วเสร็จ ครอบครัวและลูกศิษย์จะแถลงข่าวการเสียชีวิตวันที่ 16 เมษายน 2567 แต่ข่าวรั่วออกมาก่อน เลยมีการชี้แจงจากลูกศิษย์ หมายกำหนดการบำเพ็ญกุศล

คุณณัทพงษ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง ว่าตนเองและครอบครัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์หม่า ทุกปีจะไปนอนรีสอร์ต ฮวงจุ้ย บ้านภูเขา ทุกปีเพื่อเพิ่มพลังใจในการทำงาน และพบปะสังสรรค์ บรรดาลูกศิษย์อาจารย์หม่า ที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศทั่วประเทศ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นับแต่อดีตที่ผ่านมา … ปรมาจารย์ผู้สืบทอดศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยในแต่ละรุ่นนั้น มักเดินทางเพื่อเสาะแสวงหาพื้นที่อันมีสภาพแวดล้อม และลักษณะตรงตามบันทึกในตำราต่างๆ ทั้งเพื่อการศึกษาสั่งสมประสบการณ์ และเพื่อหาทำเลที่เป็นมงคลนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิต เหมาะแก่การสร้างบ้านสร้างเมือง หรือการทำสุสาน

อาจารย์หม่าเองก็เช่นกัน การสร้างบ้านของตนเองสักหลังหนึ่ง ก็ต้องเดินทางสำรวจชัยภูมิพื้นที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเสาะหาชัยภูมิที่ถูกต้องตรงตามตำราโบราณที่ได้ศึกษามา โดยใช้เวลากว่า 30 ปี จึงได้พบชัยภูมิดังกล่าว กำเนิดเกิดเป็นบ้านภูเขา ที่สร้างอยู่บนเนื้อที่นับร้อยไร่

“บ้านภูเขา” ได้รับการออกแบบพื้นที่ทุกตารางนิ้วภายในโครงการ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม หรือการอยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม และพลังธรรมชาติ ในคติของชาวจีน ตามศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” ที่มีมาหลายพันปี ลูกศิษย์หลายคนกล่าวว่าถ้าเราจะไปเพิ่มพลังหรือไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องเดินทางไปประเทศอินเดีย หรือสิงคโปร์ แต่กลุ่มลูกศิษย์อาจารย์หม่า มาที่บ้านภูเขา ที่เดียวอาจารย์สร้างฮวงจุ้ย ไว้ครบทุกอย่าง สามารถเดินอธิฐานขอพรตามจุดต่างๆในสถานที่อันเป็นมงคล รับพลังที่บ้านภูเขาเพื่อเป็นผลดีต่อชีวิต อาจารย์หม่าเดินทางกลับจากเชียงใหม่ ประมาณ 10 เดือนที่ผ่านมาอาจารย์ได้แวะมาเยี่ยมที่ตลาดทุ่งสนุ่น หมู่ 3 ทุ่งสนุ่นใต้ อำเภอบึงสามัคคี ชาวบ้านในละแวกนั้นเห็นอาจารย์หม่าเดินกางร่ม ดูทิศทางลม และดูฮวงจุ้ยบ้านให้ ชาวบ้านเดินมาถามกันว่าใช่อาจารย์หม่า หรือไม่เมื่อประมาณ 20 ปีดูรายการคุณวิทวัส ตี 10 และเห็นออกโทรทัศน์หลายสถานี ค่าดูฮวงจุ้ย ต่ำสุด 2 แสน บาท และสูงสุดหลายล้านบาท คุณณัทพงษ์ อมยิ้มมตอบว่าใช่อาจารย์หม่า ตัวจริงเสียงจริง อาจารย์หม่า ถูกยกย่องเป็นปรมาจารย์ 1 ใน 3 ของโลก ตึกทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา อาจารย์หม่าเป็นคงดูฮวงจุ้ย สำนักงานข่าวSTNEWSนำบทสัมภาษณ์อาจารย์หม่า เป็นเวลากว่า 46 ปีที่ “วรธนัท อัศกุลโกวิท” ได้รับเชิญให้เป็นที่ปรึกษาและทำฮวงจุ้ยให้แก่บริษัท ห้าง ร้าน ธนาคาร และสถานที่ราชการในต่างประเทศ ตั้งแต่ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย กระทั่งอังกฤษ และ แคนาดา ในวงการฮวงจุ้ยไม่มีใครไม่รู้จักอาจารย์วรธนัท ในชื่อของ “มิสเตอร์หม่า”กระทั่งได้รับการยกย่องเป็น ปรมาจารย์แห่งวิชาฮวงจุ้ย สำหรับในประเทศไทย “วิชาฮวงจุ้ย” ของอาจารย์ผู้นี้เพิ่งนำมาเผยแพร่ได้ 9 ปีเท่านั้น โดยการเปิดสอนฟรี! ให้กับคนสนใจทั่วไป เป็นชมรมอยู่ย่านเมืองนนทบุรี การสอนแบบนี้อาจารย์บอกว่าเป็นการทำบุญ ซึ่งเป็นหลักสำคัญของวิชาฮวงจุ้ย ชื่อ “วรธนัท” เป็นชื่อใหม่ที่เปลี่ยนมาจากชื่อเดิม “ณรงค์” สาเหตุที่เปลี่ยนเพราะอาจารย์ที่พม่าให้เปลี่ยนเพราะชีวิตจะดีกว่าเดิม “วรธนัท” แปลว่า ผู้ร่ำรวยมหาศาล เปลี่ยนใช้ชื่อนี้มาได้ 4 ปีแล้ว
วรธนัท อัศกุลโกวิท ปรมาจารย์ฮวงจุ้ย

“เอ็นเนอยี่ คอมเพล็กซ์” เป็นอาคารแห่งแรกที่อาจารย์วรธนัทใช้วิชาฮวงจุ้ยช่วยในการก่อสร้างและตกแต่งภายในทุกขั้นตอน ซึ่งผลที่ออกมาสร้างความเชื่อถือให้แก่อาจารย์อย่างมาก จากนั้นทั้งสนามม้านางเลิ้ง ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงการคลัง กระทรวงกลาโหม ตึกใหม่ของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) แล้วยังสนามบินสุวรรณภูมิ ล้วนเป็นฝีมือการทำฮวงจุ้ยของอาจารย์ทั้งนั้น อาจารย์วรธนัท เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม 2484 ปัจจุบันอายุ 83 ปี แต่ยังดูเหมือนคนอายุ 60 กว่า รวมทั้งแต่งงานมีครอบครัว ลูกๆ โตหมดแล้ว การศึกษา นอกจากวิชาฮวงจุ้ย อาจารย์จบวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทุกวันนี้ทำหน้าที่พิเศษเป็นที่ปรึกษาและไขฮวงจุ้ยให้กับบริษัทการบินไทย บริษัทซีพี และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของกรมพลังงานแห่งชาติเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์นี้อยู่ที่ความเชื่อและวิจารณญาณของแต่ละคน อาจารย์วรธนัทเองก็บอกว่า “มันเป็นเรื่องบุญกรรมและวาสนาของแต่ละคน”

  • พื้นเพครอบครัวเป็นคนที่ไหน? เป็นคนจังหวัดเพชรบุรี บ้านอยู่ในตัวเมือง ถ้าจะพูดเรื่องนี้คงต้องใช้เวลา 60 ปีถึงจะเล่าจบ (หัวเราะ) เอาเป็นว่า..ที่บ้านพ่อเป็นลูกเจ้าของบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งที่จีน มาเปิดสาขาที่เมืองไทยแล้วไปตั้งสาขาที่เพชรบุรีด้วย พ่อไปเจอแม่ที่นั่น แม่เองก็เป็นลูกคนจีน พ่อและแม่เลยแต่งงานกัน อยู่กินที่เพชรบุรี มีลูกทั้งหมด 11 คน แต่ตายหมด เหลือผมซึ่งเป็นลูกชายคนเดียว
  • แล้วไปศึกษาวิชาฮวงจุ้ยมาจากไหน? ตระกูลผมเป็นคนเซี่ยงไฮ้ ศึกษาวิชาฮวงจุ้ยแบบถ่ายทอดกันมา ..คือ ตอนสมัยสงครามที่จีนแดงบุก คุณปู่เป็นทหารในระดับจอมพลคนหนึ่งของเจียง ไค เช็ค คุณปู่เขาเป็นทหารเลยรู้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไร ก็บอกให้ลูกหลานอพยพไปยังที่ต่างๆ บางคนไปอยู่อเมริกา บางคนไปอยู่อังกฤษ บางคนไปอยู่มาเลเซีย ส่วนสายของผมมาอยู่ที่เมืองไทย ผมจึงเกิดและเติบโตในประเทศไทย คุณปู่เป็นผู้ที่มีความรู้ในศาสตร์วิชาฮวงจุ้ยที่เรียกว่า “เต๋าหมวกดำ” เป็นอย่างดี ซึ่งศาสตร์ฮวงจุ้ยเต๋าหมวกดำนี้ถือเป็นศาสตร์ชั้นสูง และจะถ่ายทอดเฉพาะจักรพรรดิและขุนนางจีนชั้นสูงเท่านั้นคุณปู่ถ่ายทอดวิชาให้คุณพ่อผมได้รับการถ่ายทอดจากคุณพ่ออีกที และตัวผมเองเดินทางไปศึกษาเพิ่มเติมที่ประเทศจีนบ้าง ทิเบตบ้าง อินเดียบ้าง เป็นเวลานานกว่า 30 ปี และยังได้เดินทางไปศึกษาเพิ่มเติมทั้งในพม่า มอญ เขมร รวมถึงศึกษาเรื่องราวของพุทธประวัติและพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ
  • เคยเรียนหนังสือไทยไหม? เรียนครับ แต่เรียนช้า เป็นโรงเรียนชั้นประถมที่เพชรบุรี จำชื่อโรงเรียนไม่ได้แล้ว ผมเรียนไปเรื่อยๆ จนอายุ 13 จึงมาเรียนเรื่อง “พลัง” ทีนี้ไปเรียนต่างประเทศเลย ไปตั้งหลักที่ฮ่องกงกับจีน แม่ไปด้วยแต่ไม่ได้ทิ้งการเรียนที่เมืองไทยนะ คือจะใช้ช่วงเวลาปิดเทอมไปเรียน คือ..ผมเป็นคนที่ความจำดี เรียนที่เมืองไทยไม่ต้องท่องหนังสือเยอะ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้นทุกปิดเทอมจะไปเรียนเรื่องพวกนี้ที่ต่างประเทศ แต่หลังจากจบมหาวิทยาลัยก็ยาวเลย ไปอยู่ฮ่องกงไปเรียนวิชาฮวงจุ้ย เพราะมีญาติอยู่ที่นั่น จากนั้นไปต่อที่กวางตุ้ง แล้วไปปักกิ่ง เรียนวิชาต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องของพลังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกำลังภายใน รำมวย ฝังเข็ม อะไรที่เป็นศาสตร์เกี่ยวกับพลัง เรียนหมด
  • ชอบเรื่องพวกนี้? ชอบ และไม่เคยสงสัยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย เรื่องสมาธิก็เรียนมาตั้งแต่เด็กเพราะลุงชอบพาไปวัด มีอยู่วันไปเห็นหลวงปู่ทวด (วัดช้างให้) ถ้าพูดไปจะหาว่าเว่อร์ ผมศรัทธาหลวงปู่ทวดมาก ก็ทุบกระปุกเอาสตังค์ไปเช่ามา ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด 25 บาท ก็บูชามาแล้วเลียนท่านั่งสมาธิของท่านเวลาทำสมาธิ สักวันสองวันก็เกิดนิมิตว่าท่านมาสอนเรื่องสมาธิ
  • มีเหตุอะไรทำให้เชื่อเรื่องพวกนี้ เยอะแยะ เช่นทุกครั้งที่นึกถึงจะมีกลิ่นหอมลอยมา กลิ่นหอมที่บอกไม่ถูก ไม่ใช่กลิ่นดอกไม้ธูปเทียนแน่นอน
  • ที่ว่าไปตั้งหลักที่ฮ่องกง-ยังไง? ก็ไปเรียนวิชาฮวงจุ้ย เริ่มจากเรียนกับญาติก่อน แล้วเขาก็พาไปตระเวนเรียนกับอาจารย์ที่ความรู้สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามหาอาจารย์ไปเรื่อยๆ พออายุสัก 18-19 ค่อยเริ่มเดินทางไปทิเบต ในแวดวงเขาจะรู้กันว่าถ้าเรื่องจิตเรื่องพลัง เรื่องเวทมนตร์ ต้องไปทิเบต เพราะสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่โน่นทำให้คนจิตเข้มแข็ง
  • ตอนนั้น (ไปทิเบต) เริ่มมีชื่อเสียงหรือยัง? ยังครับ ตอนนั้นอายุ 18-19 เอง มาเริ่มมีชื่อเสียงประมาณ 25 แต่ความจริงตอนสิบแปดสิบเก้าก็ทำได้หมดแล้ว แต่คิดว่าเราต้องหาประสบการณ์ต่อ เรื่องพวกนี้มันไม่ตายตัว ไม่ได้เป็นสถาบัน เราต้องสืบเองว่าที่ไหนมีคนเก่งก็ตามไปเรียน วิชาพวกนี้บางทีมันแปลกกว่าอย่างอื่น บางทีมันอยู่ในชาวบ้านธรรมดา บางทีอยู่กับพระ เราก็ไปสมัครไปขอเรียน ถ้าถูกอัธยาศัย เขาก็ให้
  • ใช้เวลาเรียนทั้งหมดกี่ปีถึงบรรลุ ไม่มี เรียนตลอด ปัจจุบันก็ยังเดินทางไปตามหาวิชา ตามหาที่เรียนอยู่ ถ้ามีที่ไหนก็ไปทดสอบดูว่าน่าสนใจไหม
  • มีชื่อเสียงครั้งแรกเลยเป็นเรื่องอะไร–พลังจิตรักษาคนหรือทำฮวงจุ้ย? โห…จำไม่ได้แล้ว วันๆ หนึ่งคนมาหา 300 คน จะให้จำได้ยังไง มีมาทุกเรื่องเลย..ตั้งแต่เรื่องฮวงจุ้ย เรื่องปราบผี เรื่องเจ็บป่วย คนหาย ฯลฯ
  • แล้วเป็นที่รู้จักหรือมีชื่อเสียงได้ยังไง? แบบปากต่อปาก คนเดือดร้อนมาหาเราช่วยเขาได้ ก็บอกต่อๆ กันไป คนก็มากันเรื่อยๆ
  • แล้วที่ว่ามีชื่อเสียงระดับอินเตอร์ทำฮวงจุ้ยให้ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา มันเริ่มจากญาติที่ฮ่องกงและที่จีนก่อน บรรดาญาติของผมเขาเป็นหมอฮวงจุ้ยที่อยู่ในวงการของดารา นักการเมือง ตั้งแต่สมัย ชอว์ บราเดอร์ โน่น เวลาเราไปเขาจะแนะนำให้เรารู้จัก ให้เราทำ พอทำสำเร็จก็บอกต่อๆ กัน แพร่ขยายมาถึงเมืองไทย มีดาราคนไทย นักการเมืองคนไทย มาขอความช่วยเหลือ แล้วพอทำสำเร็จได้ผลดี เขาก็เอาไปพูดต่อกันไป
  • ค่าใช้จ่ายแพงไหม? ไม่มี ฟรีหมด คือถ้าคุณสำเร็จวิชาทำฮวงจุ้ย เวลาคุณทำฮวงจุ้ย
  • ฮวงจุ้ยสามารถทำให้คนมีกินมีใช้ ฉะนั้นฐานะครอบครัวก็ดีขึ้นตามลำดับ การทำให้คนอื่นถือว่าทำบุญ คนมาขอความช่วยเหลือก็ช่วยไป ถือว่าทำบุญกับคนไทยด้วยกันแต่ถ้าไปทำให้ต่างประเทศ..ขอโทษค่าตัวผมวันละล้าน คนไทยสู้ไหวไหม? คือ..มันเป็นค่าตัวมาตรฐานเมืองนอก อย่างฮ่องกงนี่มาตรฐานเขา 3 ชั่วโมง 80,000 เหรียญ ถ้าผมอยู่ต่างประเทศก็ถือว่าทำเป็นอาชีพนะ แต่ถ้ามาทำในประเทศไทย เช่น ทำเนียบรัฐบาล สภา สนามม้า สนามบินสุวรรณภูมิ อันนี้ฟรี! ไม่ได้สักแดง เพราะถือว่าทำบุญ แต่ถ้าเป็นเอกชนไม่ฟรีนะครับ เพราะเราเอาเงินไปช่วยคนต่อ เอาเงินใส่ซองไปสร้างสะพาน สร้างวัดเวลานี้ผมทำฮวงจุ้ยให้ที่ฮ่องกง มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นหลัก เพราะที่นั่นมีกฎว่า 3 ชั่วโมง 80,000 เหรียญ หรือราว 2,080,000 บาท นอกนั้นมีไปทำที่ลาสเวกัส ไปทำให้กาสิโน
  • ทำไมได้ยินมาว่าใครทำฮวงจุ้ยกับอาจารย์แพงมาก? ฮวงจุ้ยประเทศไทย กับฮวงจุ้ยของผมไม่เหมือนกัน ฮวงจุ้ยของผมจะเป็นฮวงจุ้ยของพระมหากษัตริย์ แต่ฮวงจุ้ยของประเทศไทยจะเป็นฮวงจุ้ยชาวบ้าน ฉะนั้นเทคนิคและรายละเอียดในการทำไม่เหมือนกัน ที่เราทำส่วนใหญ่เราทำฮวงจุ้ยให้กับบุคคลระดับที่จะต้องปกครองคน อีกอย่าง–เราพูดไปว่าถ้าคุณจะทำฮวงจุ้ยเพื่ออยากมีเงินสิบล้านยี่สิบล้าน คุณต้องทำเคล็ดแก้หลายแสน สำหรับคนไทยพอบอกว่าต้องเสียเงินหลายแสนเขาก็ไม่เอาแล้ว คืออยากจะได้เยอะๆ แต่ไม่ยอมเสีย แค่ไปซื้อหัวเสือมาแปะก็พอแล้ว ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะฮวงจุ้ยจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเราเห็นกันอยู่ เช่น แขวนหัวเสือ แขวนกระดิ่งลม ไม่ใช่

บ้านภูเขา มีครบวงจร ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เครื่องเล่น การจากไปแบบไม่มีวันกลับของปรมาจารย์ ฮวงจุ้ย สร้างความโศกเศร้าให้กับลูกศิษย์ทั่วประเทศ

ข่าว- ร.อ.วัลลภ ประเสริฐนู นสพ.STNEWS

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ชมรมสื่อโซเชียลประเทศไทย
095-342-168