! พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว หัวจะปวด ยื่นคำร้องศาลฎีกา ครั้งแรก บอกว่าไม่มีอำนาจ เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการ สว.ระดับประเทศ 77 จังหวัด ยุ ประกาศนัดรวมพล ขับไล่ กกต. สื่อมวลชนโปรย สมบัติ อายุ 78 ทนไม่ไหว เอาไงเอากัน
สำนักงานข่าวหนังสือพิมพ์STNEWS รายงานวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.30 น.ณ ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ศาลฎีกาเเผนกคดีเลือกตั้ง ศาลนัดฟังคำสั่งในคดีที่ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีต ผช.ผบ.ตร. นาย จิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง นางสาวณัฐนันท์ ทองดี 3 สว.ระดับประเทศ ฟ้องผู้อำนวยการเลือกตั้งเเละคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อศาลฎีกาเพื่อให้เพิกถอนการประกาศของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองสว. 200 คนและขอให้ศาลสั่งให้มีการเปิดหีบบัตรนับคะแนนใหม่เพื่อตรวจสอบการเชื่อมโยงของโพยกับบัตรลงคะแนน และพิจารณาตัดสิทธิ์ผู้ที่ได้คะแนนลำดับสูงและผู้ที่ได้คะแนนมาโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตรวจคำฟ้องแล้ว คดีนี้โจทก์ทั้งสามฟ้องโดยสรุปว่าโจทก์ทั้งสามยื่นคำร้องคัดค้านต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567 เกี่ยวกับการเลือก สว.ว่าไม่โปร่งใสและบริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะมีการรวมกลุ่มกันของผู้สมัครบางคนและบางกลุ่ม เพื่อให้มีการลงคะแนแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ในลักษณะฮั้วกัน โดยมีผู้วางแผนอยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าว ซึ่งหากศาลฎีกาสั่งให้มีการเปิดหีบเลือกตั้งและ นับคะแนนใหม่โดยใช้ระบบเครื่องมือกลหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะทำให้ทราบถึงความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว และมีคำขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนประกาศผู้อำนวยการการเลือการเลือก ระดับประเทศ เรื่อง ผลการนับคะแนในการลงคะแนนเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกันลงวันที่ 27 มิ.ย.2567 ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือก สว.ลงวันที่ 10 ก.ค.2568 และเพิกถอนสิทธิผู้สมัครรับเลือกซึ่งได้คะแนนในลำดับที่ 1-6ทุกกลุ่ม ยกเว้นกลุ่มที่ 14 นั้นศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ที่ 1 กับนายประหยัด เสนวิรัช เคยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 2 (กกต.) ต่อศาลฎีกาอ้างว่า การเลือกสว.ไม่โปร่งใสและไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม เพราะมีการรวมกลุ่มกันของผู้สมัครบางคนและบางกลุ่มเพื่อให้มีการลงคะแนแก่ผู้หนึ่งผู้ใดในลักษณะฮั้วกันโดยมีผู้วางแผนอยู่เบื้องหลังกระทำการดังกล่าวซึ่งหากศาลฎีกาสั่งให้มีการเปิดหีบและนับคะแนนใหม่โดยใช้ระบบเครื่องมือกลหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะทำให้ทราบถึงความไม่ชอบมาพากลดังกล่าวและมีคำขอให้ศาลฎีภามีคำสั่งชะลอการประกาศรับรองผู้สมัครที่ได้รับเลือกทุกกลุ่มไว้ก่อน และให้จำเลยที่ 2 ทำการนับคะแนนใหม่โดยใช้เครื่องมือกลหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์
ศาลฎีกาในคดีดังกล่าวมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องโดยเห็นว่าตามคำฟ้องของโจทก์ไม่เข้ากรณีที่จะใช้สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลฎีกาตามพระราชบัญยัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2561 มาตรา 44 เมื่อศาลฎีกา มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ที่ 1 กับพวก เนื่องจากไม่มีอำนาจเสนอคดีต่อศาลฎีกาได้โดยตรงแล้วดังกล่าว การที่โจทก์ที่1 ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้ต่อศาลฎีกาโดยยกข้ออ้างเช่นเดียวกับคำฟ้องในคดีเดิมซึ่งศาลฎีกา ได้มีคำสั่งไปแล้ว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ประกอบระเบียบของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาและวินิจฉัย คดีเกี่ยวกับสิทธิสมัครรับเลือก การดำเนินการเกี่ยวกับการเลือก และการเพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตั้งหรือสิทธิเลือกตั้งในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ข้อ 5 วรรรคสอง โจทก์ที่ 1จึงไม่มีอำนาจฟ้องตาม พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62,63แต่ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้ผู้สมัครหรือผู้ใดมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้โดยตรงเพื่อให้มีคำสั่งตามที่โจทก์ที่ 2,3มีคำขอ โจทก์ที่ 2,3จึงไม่มีสิทธิยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกา ต่อมาที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ กลุ่มผู้ร้องได้จัดเเถลงข่าว พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า การกระทำของกกต.ก็ต้องขัดต่อกฎหมายโดยสิ้นเชิง ในฐานะผู้สมัครเลือกตั้งสว. ถึงส่งตนกับพวกมาเป็นผู้แทนในการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งโดยก่อนหน้านี้ฟ้องไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ศาลฎีกายกฟ้องเนื่องจากศาลบอกว่ายังไม่มีอำนาจเนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการของกกต. อยู่ นายโปรย สมบัติ ตัดพ้อ อุบาทว์แบบนี้มีที่ไหนวะ สู้เพื่อความถูกต้องบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม จะเอาอย่างไงที่ไหน เมื่อไหร่ เอาด้วย กลุ่ม 18 หมายเลข 78 เอาด้วย พร้อมลงเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 081-1158989 ไลน์กลุ่ม สว.ระดับประเทศ ต่อมโมโหแตก ชวนกันออกเดินถนนขับไล่ กกต.
แต่เมื่อกกต. มีคำสั่งรับรองสว. แล้ว ก็ใช้สิทธิในการยื่นต่อศาล โดยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายใน3วัน ในวันที่กกต. ดำเนินการขัดต่อกฎหมาย ซึ่งวันนี้ศาลฎีกามีคำสั่งว่าพิจารณาแล้วเห็นว่า ตอนในฐานะโจทก์ที่ 1เคยฟ้องมาแล้วจึงเป็นฟ้องซ้ำ ประเด็นโจทก์ที่ 2-3 ไม่มีอำนาจเนื่องจากเป็นอำนาจของ กกต.
ในส่วนตัวมองว่ามาตรา 44 ที่ให้สิทธิของผู้สมัครที่ร้องคัดค้านต่อศาลฎีกา แต่พอมาลองยื่นฟ้องกลายเป็นว่าเราไม่มีอำนาจ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปขอหารือกับผู้สมัคร สว.ท่านอื่นๆก่อน
ก่อนหน้านี้เคยยื่นฟ้องศาลปกครองเเละวันนี้ฟ้องศาลฎีกาฯมาเเล้ว ส่วนศาลรัฐธรรมนูญ เราเตรียมการที่จะยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและรัฐสภาเพื่อยื่นต่อถึงศาลรัฐธรรมนูญ ในส่วนคดีอาญาเราเเจ้งความดำเนินคดีต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปป.) โดยเเจ้งความ กกต. 5 คนเเละ เลขาฯ กกต.1 คนอีก2 คนเราดำเนินคดีเพราะทำหน้าที่ถูกต้องโดยยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ในส่วนการฟ้องตรงเราก็ดูๆไว้ เเต่เน้นหลักเลยคือเราจะร้องผู้ตรวจการเเผ่นดินก่อน เพราะเรื่อง สว.เป็นเรื่องใหญ่ เราได้เตรียมเอกสารพยานหลักฐานที่ระบุถึงการเลือกตั้งที่ผ่านมามีการเลือกตามโพยไว้เเล้ว
นาย จิรัฏฐ์ บทเรียนที่เราฟ้องไม่ถูกศาลหลายๆคำร้อง วันนี้ เราได้ทราบเป็นบทเรียนจะยังไม่ถอยก็จะหาทางดำเนินการต่อไป กลุ่มเราไม่ได้มาขอการเลือกตั้งโมฆะเเต่ สว.ตำเเหน่งสูงเราต้องการคนคุณภาพ ถ้าได้มาไม่เที่ยงธรรมก็ไม่สมควร ในครั้งนี้มันมีคนดีอยู่ด้วย คนไหนไม่ดีได้มาไม่เที่ยงธรรมเราก็ร้อง กลุ่ม สว.ระดับประเทศกำแพงเพชร เข้าร่วมฟังคำสั่งศาล กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม สว.ระดับประเทศ 77 จังหวัดเริ่มพูดคุยกันในกลุ่มไลน์ ความอยุติธรรม ในสังคมไทย ทำให้คนต้องลุกขึ้นมาสู้ หลายกลุ่มบอกให้แกนนำ นัดรวมพล สว.ระดับประเทศ ครั้งใหญ่ เดินขบวนขับไล่ กกต. ผู้สื่อข่าว ถาม พล.ต.ท.คำรบ กลุ่ม สว.ระดับประเทศ เคลื่อนไหวจะเป็นฉนวนเหตุให้ทหาร ออกมาทำการรัฐประหาร อีกหรือไม่ พล.ต.ท.กล่าวว่า ไม่เป็นเงื่อนไขการยึดอำนาจของทหาร ตนเองไม่เห็นด้วย การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง พรุ่งนี้จะพูดคุยกับเพื่อนกลุ่ม สว.ระดับประเทศ ว่าจะเดินไปทางไหน แต่ไม่ยอมแพ้ความยุติธรรมถูกทำลาย ความยุติธรรมเข้ามาแทนที่
ข่าว-เลขาวิทย์ นสพ.STNEWS