“นักเลง เต๊ะตำรวจสลบบนโรงพัก นักเลงยิงตำรวจ “ศักดิ์ศรีตำรวจไทย อุทาหรณ์ ถึงเวลาหรือยัง ที่จะเรียกศรัทธาจากประชาชน อย่าให้อำนาจเถื่อน อำนาจเงิน อยู่เหนือกฏหมาย

“คอลัมน์ .ป.โท ราม”

อำนาจเงิน อำนาจสีเทา อำนาจนักการเมือง ชนวนเหตุ การเสียชีวิต ของ 2นายตำรวจทางหลวง อนาคตจะเป็นกำลังสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ต้องมาพบจุดจบ เพราะการปฏิบัติหน้าตรงไป-ตรงมา อดีตนายตำรวจตงฉิน”ฉายา จ่าเพียร แห่งเทือกเขาบูโด” พล.ต.อ..สมเพียร เอกสมญา เคยดำรงตำแหน่งผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จ.ยะลา รับราชการตั้งแต่เป็นนายตำรวจชั้นประทวน สิบตำรวจตรี จนถึงยศพันตำรวจเอก(พ.ต.อ.) เคยร้องให้เสียใจรับราชการมา39ปี ปะทะโจรภาคใต้นับครั้งไม่ถ้วน ในร่างกายจ่าเพียร มีแต่ร่องรอยผ่าตัด จากพิษคมกระสุนปืนและสะเก็ดระเบิด ปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน ในชีวิตตั้งแต่รับราชการมาอย่างยาวนานถึง39ปี รู้ดีว่าปะทะกับโจรภาคใต้กลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน มีทั้งอำนาจเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ลูกเมีย จ่าเพียรรู้ดีว่า นามสกุลเอกสมญา คือเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มก่อการร้าย ไม่ยอมให้ลูกและภรรยาใช้นามสกุล เพราะโจรภาคใต้ ประกาศต้องฆ่า จ่าเพียรแห่งเทือกเขาบูโด ให้ได้เพราะนายตำรวจคนนี้ มันไม่รักตัวกลัวตาย เป็นหนามทิ่มแทงกลุ่มโจรใต้จากการปะทะกันหลายครั้งสมุนโจรใต้เสียชีวิตจำนวนมากจากชุดปฏิบัติการที่มีจ่าเพียรเป็นหัวหน้าชุด ในวัยอายุ59ปี พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา มีผลงานมากมายเป็นนายตำรวจชั้นประทวนคนแรกที่ได้รับเหรียญรามาลา เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ขอย้ายออกจาก3จังหวัดภาคใต้ ขออยู่พร้อมหน้าลูกและภรรยา เกษียณอายุราชการปีสุดท้าย

ตั้งแต่รับราชการ39ปี ไม่เคยอยู่ร่วมฉลองปีใหม่หรือสงกรานต์กับครอบครัวเลยสักครั้ง เข้าพบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา สบ.10 ยศตำแหน่งขณะนั้น รับปาก โผตำรวจออกมาแล้ว ผู้กำกับเพียร ได้ย้ายสมใจ แต่ใครจะไปคิด โผตำรวจเปลี่ยนแปลงได้ทุกนาที สุดท้ายคำสั่งอยู่ที่เดิม จ่าเพียรร้องให้ออกสื่อดังทั่วประเทศ ผมขอย้ายไปสถานีตำรวจที่ไม่มีผลประโยชน์ ส่วย ที่สถานีโรงพักไหนก็ได้ ทำไมข้าราชการที่รับราชการมีผลงานมากมาย ได้รับเหรียญรามาลา ขอย้ายยังไม่ได้เพราะผมไม่มีเงินวิ่งเต้นตำแหน่ง หลังจากนั้นคนไทยทั้งประเทศก็สูญเสีย นายตำรวจน้ำดี รายตำรวจตงฉิน การสูญเสียจ่าเพียรแห่งเทือกเขาบูโด สร้างความโศกเศร้าและเสียใจให้คนไทยทั้งประเทศ จึงมีร้านเพชร เสนอนำอัฐิ จ่าเพียรมาทำเป็นเพชร ซึ่งแพงกว่าเพชร มอบให้ภรรยา วีรกรรมอำนาจเงินอำนาจนักการเมืองเหิมเกริมอยู่เหนือกฏหมายได้ เพราะผู้บังคับบัญชามีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ข้าราชการตำรวจจึงหลีกหนีนักการเมืองและผู้มีอิทธิพลไม่ได้นำมาการสูญเสียหลายครั้งที่ ศักดิ์ศรีของตำรวจถูกย่ำยีโดยนักเลงลูกน้องการเมือง เหตุการณ์ปี 50

เมื่อปี 2550 เกิดเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นที่
งานคอนเสิร์ตเพื่อชีวิต ที่สวนสาธารณะพญาแถน
อ.เมือง จ.ยโสธร ซึ่งมีลูกชาย นายก อบจ.ยโสธร
ร่วมแจมอยู่ด้วย โดย ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี
ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.อ.เมืองยโสธร
ในขณะนั้น เข้าระงับเหตุตามหน้าที่ แต่ทำให้
นายก อบจ.ยโสธร ไม่พอใจ หาว่าไปทำร้าย
ลูกชายของเขา ก็เข้าทำนอง “ลูกข้าใครอย่าแตะ”
นายสถิรพร นาคาสุข (นายกฯ อบจ.ยโสธร) จึง
เดินทางมา สภ.เมืองยโสธร เพื่อมาเอาเรื่องกับ
ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ทันที โดยมี พ.ต.อ. โรจน์
วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ (ผู้กำกับ) และ
พ.ต.ท.ปรีชา สารถี (สารวัตรปราบปราม) คอยยืน
เคลียร์อยู่ด้วย จากนั้นลูกน้องของนายสถิรพร วิ่ง
เข้ามาชกหน้า ส.ต.อ.อาทิตย์ จนเลือดกลบปาก
แต่ พ.ต.ท.ปรีชา กลับสั่งให้ลูกน้องยกมือไหว้
ขอโทษ
แต่เรื่องไม่จบ เมื่อ นายกฯ อบจ. พูดว่า “
…ต้อง
กราบตีนขอโทษกู จึงจะจบ” ส.ต.อ.อาทิตย์ แย้งไป
ว่า “คุณไม่ใช่นายผม จะมาสั่งให้ผมกราบตีนได้
อย่างไร” ทันใดนั้น พ.ต.ท.ปรีชา เอ่ยแทรกขึ้นมา
ว่า “ถ้ากูเป็นนาย… กูสั่งให้…กราบ …จะกราบ
หรือไม่” ส.ต.อ.อาทิตย์ สวนกลับไปว่า “ถ้านายก

“งั้น กูขอสั่งให้…กราบ” พ.ต.ท.ปรีชาออกคำสั่ง
แล้ว ส.ต.อ.อาทิตย์ ก็ก้มลงกราบนักการเมืองใหญ่
ทั้งเครื่องแบบ!! และขณะที่กำลังเงยขึ้นมาก็ถูกสมุน
นักการเมืองเตะเสยเข้าใบหน้าจนสลบเหมือด ต่อ
หน้า พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ และพ.ต.ท.ปรีชา!
ถามว่า ทำไม? พ.ต.ท.ปรีชา จึงกล้าสั่งให้ลูกน้อง
กราบตีนนักการเมืองทั้งที่ยังสวมเครื่องแบบตำรวจ
ก็มีคำตอบให้ได้วินิจฉัยกันว่า เดิมที พ.ต.ท.ปรีชา
มีตำแหน่งเป็นเพียง สารวัตรธุรการ อยู่ที่โรงพัก
แห่งนี้ ต่อมา พ.ต.ท.ปรีชา และนักการเมืองซึ่งอาจ
เคยเกื้อหนุนค้ำจุนกันมาก่อน (จะเรื่องใดไม่ทราบ)
ก็สวมบท “ป๋าดัน” ทำการ “ดัน” ให้ พ.ต.ท.ปรีชา
ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง “สารวัตรปราบปราม
สภ.อ.เมืองยโสธร” จนได้ในที่สุด ตำแหน่ง
สวป.เมือง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนนั้นถือเป็นตำแหน่งสุด
ยอดที่บรรดา “ทั่นสารวัตร” ปรารถนากันนัก
เหตุผลนี้กระมังที่ทำให้ พ.ต.ท.ปรีชา กล้าสั่งให้ลูก
น้องในเครื่องแบบกราบตีนนักการเมือง!!

สุดท้าย เมื่อเรื่องแดง ตำรวจชั้นประทวนทั่วเมือง
ย โสธรทนไม่ได้ จึงรวมตัวกันกว่า 200 นาย
กดดันให้เอาเรื่องกับ นายก อบจ. จนต้องมาขอ
ขมา ส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ส่วน ผู้บังคับบัญชา ที่
ปล่อยให้ลูกน้องถูกทำร้ายแต่กลับไม่ช่วยเหลือ มี
คำสั่งดังนี้ (คำสั่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบ
ปรามการทุจริตแห่งชาติ – ผู้กำกับ มีฐานะเป็น
หัวหน้าพนักงานสอบสวนแต่ไม่ดำเนินคดีกับ
คนร้าย ผิดวินัยร้ายแรงของตำรวจ จึงให้ออกจาก
ราชการ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการอนุมัติให้กลับเข้า
มาเป็นตำรวจอีก ส่วนสารวัตรปราบปรามและคน
อื่นๆ ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ถูกลงโทษสถานอื่น เพราะ
กลับใจยื่นสำนวนฟ้องคดีให้ลูกน้องในตอนหลัง จึง
ยังคงรับราชการต่อไป)
เรื่องนี้จึงอยากให้เป็นอุทธาหรณ์ และอยากให้
ตำรวจร่วมด้วยช่วยกันปกป้อง ศักดิ์ศรีของกันและ
กัน ไม่ใช่ให้ถูกเหยียบย่ำ หรือเกรงกลัวต่ออิทธิพล
ของนักการเมืองและสมุนนักการเมือง ที่ชอบอวดอ้างบารมี ใช้อำนาจรังแกข่มเหงประชาชน

คอลัมน์ ป.โท ราม