Saturday, September 21, 2024
Latest:
ทั่วไป

“นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสร็จจากภารกิจ พานายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง ได้หมายเลข ๑ โพสต์เฟสบุ๊ค ถามความเป็นธรรม กกต.ที่อนุกรรมการ กกต.สืบสวน ลงมติ ไอทีวี ไม่ได้ดำเนินการทำสื่อ ยกคำร้อง

สำนักงานข่าว ST NEWS รายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางพร้อมเลขาธิการพรรค ไปให้กำลังใจ นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ระยอง ได้หมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ในการใช้หาเสียง เบอร์ ๑ ทีมงานได้ขึ้นรถแห่ ปราศรัย พบประพี่น้องประชาชน ในเขต 3 พักทานอาหารเที่ยง ที่ร้านอ้วนโภชนา แล้วรีบเดินทางกลับพรรคก้าวไกล กทม. โพสต์เฟสบุ๊ค ทวงความเป็นธรรม คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)กลาง แหล่งข่าว ST NEWS จะมีคำสั่ง ถอนคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในเร็วๆนี้

เมื่อวานนี้มีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ของ กกต. มีมติว่าจะให้ยกคำร้องผมในคดีอาญามาตรา 151 เรื่องการรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังลงสมัคร จากการถือหุ้นไอทีวี โดยคณะกรรมการสืบสวนมีเหตุผลสำคัญว่า บริษัทไอทีวีไม่มีการดำเนินกิจการอยู่และไม่มีรายได้จากการเป็นสื่อ จึงไม่ถือว่าผมมีความผิด
.
ผมยืนยันอีกครั้งว่า คดีหุ้นไอทีวีของผม เป็นที่น่าสงสัยว่าเป็นการจงใจกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ เพราะผมถือหุ้นนี้มาตลอดเวลาที่ทำงานการเมือง เป็น ส.ส. มา 4 ปี แต่เพิ่งจะเกิดการร้องเรียนกันขึ้นในเวลาที่ผมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้าการเสนอชื่อผมต่อสภาไม่กี่วัน รวมถึงมีหลักฐานความผิดปกติมากมายที่บ่งชี้ว่ามีความพยายามปลุกปั้นให้บริษัทไอทีวีซึ่งเลิกกิจการสื่อไปนานกว่า 10 ปี กลับมาเป็น “หุ้นสื่อ” ให้ได้
.
มาวันนี้ ที่มีการเปิดเผยมติของคณะกรรมการไต่สวนออกสู่สาธารณะแล้วว่าผมไม่ผิด ทำให้มีประเด็นคำถามที่ผมขอถามไปยัง กกต. ดังนี้

  1. คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดังกล่าว ซึ่งทำคดีมาตรา 151 (คดีอาญา) มีมติก่อนที่ กกต. จะพิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ถึงแม้ว่า กกต จะอ้างว่า การพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน เป็นคนละกระบวนการกับการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่คณะกรรมการสืบสวนฯ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่รวบรวมพยานหลักฐานและเรียกพยานบุคคลมาสอบข้อเท็จจริง ได้เห็นข้อเท็จจริงว่า ไอทีวีมิได้ประกอบกิจการสื่อและมิได้มีรายได้จากกิจการสื่อมวลชนในขณะที่ผมสมัครรับเลือกตั้งแต่อย่างใด แต่กกต. กลับยังยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยละเลยข้อเท็จจริงบางประการที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้หยิบยกมาพิจารณา และละเลยแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เคยวางหลักเรื่องการมีรายได้และที่มาของรายได้เป็นเกณฑ์ว่าบริษัทใดเป็นสื่อหรือไม่
    .
  2. การที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนมีมติว่า หุ้นไอทีวีไม่ใช่หุ้นสื่อ นอกจากจะสอดคล้องกับแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็สอดรับกับความเห็นของประชาชนทั่วไปอีกด้วย ดังนั้น การสั่งให้ผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งๆ ที่ไอทีวี และอินทัช ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ล้วนแต่มีเอกสารงบการเงินยืนยันว่า ไอทีวีหยุดประกอบกิจการ และไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการสื่อ ประกอบกับคดีหุ้นสื่อ (นอกจากคดีคุณธนาธร) ของ สส. ปี 2563 ประมาณ 60 คน ศาลก็ไม่ได้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด แต่ในคดีผม กลับสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ผมจึงขอให้สังคมพิจารณาว่าการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ผม มีความเป็นธรรมหรือไม่

ทีมข่าวการเมือง-นสพ.ST NEWS ออนไลน์ รวดเร็ว ตรง ไม่รับผลประโยชน์

ไม่เก่งคณิต ❓ คิดเลขช้า ❓ ไม่ชอบคำนวณ❓
📚แค่เปลี่ยนวิธีคิด คณิตง่ายนิดเดียว 📚

☀️สอนคำนวณ ➕➖❌➗เลขขั้นพื้นฐานด้วยนิ้วมือ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
https://lin.ee/eZvwH2s
โทร. 065-6169554 (ครูนิ้ง)

เลอวองจินตคณิต

เลอวอวงจินตคณิตสาขาขาณุวรลักษบุรี

เรียนจินตคณิตกับครูนิ้ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ชมรมสื่อโซเชียลประเทศไทย
095-342-168