“ เจ้าของวลี “บังอาจ”พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีต แม่ทัพภาค ๓ ผู้จงรักภักดีปกป้องสถาบัน ตัวจริง เสียงจริง ทักษิณ กล้าปลด ผบ.ทบ.แต่ไม่กล้าปลด แม่ทัพภาค ๓ เป็นแม่ทัพ ที่ทักษิณ ชินวัตร เกรง กลัว มากที่สุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผมไม่แข่ง ตำแหน่ง ผบ.ทบ. ให้พี่พรั่งเป็นก่อน

“คอลัมน์ กิ้งก่าทอง” วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตแม่ทัพภาค ๓ เจ้าของวลี “บังอาจ”นายทหารผู้จงรักภักดีปกป้องสถาบัน ตัวจริงเสียงจริง ผู้ที่กล้าต่อกรกับ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะดำรงตำแหน่ง มีอำนาจล้นฟ้า ทั้งอำนาจรัฐ อำนาจเงิน มีเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ ตำรวจ เป็นเสาค้ำอำนาจให้ ทักษิณ ชินวัตร แต่เมื่อฟางเส้นสุดท้ายขาด ขายดาวเทียมไทยคม ขายหุ้นชินคอร์ปฯให้เทมาเส็ก ไม่ยอมเสียภาษี ซื้อที่ดินรัชดา เซ็นให้ภรรยาไปซื้อที่ดิน(ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี) ห้ามใครประมูลแข่ง นำเงินปล่อยกู้ ให้พล.อ.ขิ่นยุ้นต์ นายกรัฐมนตรี พม่า 4,000 ล้านบาท (ธนาคารEXIM BANK) ดอกเบี้ยถูกกว่าคนไทย ปัจจุบัน พล.อ.ขิ่นยุ้นต์ โกง ไม่ยอมชำระหนี้ที่กู้ยืม ศาลพิพากษาจำคุกทักษิณ คดีปล่อยเงินกู้ ต้นเหตุที่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.(เตรียมทหาร รุ่น 6) พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร (เตรียมทหาร รุ่น 7) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา( เตรียมทหาร รุ่น 10) พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา (เตรียมทหาร รุ่น 12 ) พล.อ.สพรั่ง คือคีย์แมน คนสำคัญที่วางแผนทำรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่ทุจริต คอรัปชั่น จริง ปัจจุบันศาลพิพากษาจำคุกทักษิณหลายคดี ทักษิณยอมรับทำผิดจริง จึงได้รับการอภัยโทษ ลดโทษจำคุก เหลือ 1 ปี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้อาภัพ ไร้วาสนา ทุกคนที่อยู่ในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คมช.) ได้ขึ้นตำแหน่งสูงสุดของกองทัพบก (ผบ.ทบ) แต่วาสนา “สพรั่ง ”ไปไม่ถึงดวงดาว ผู้อาภัพไร้วาสนา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา บอกให้พี่พรั่ง ขึ้น ผบ.ทบ.ก่อนไม่ยอมแข่ง และแย่งตำแหน่งกับพี่พรั่ง สุดท้าย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขึ้นตำแหน่ง ผบ.ทบ. รุ่นพี่ อย่างพล.อ.สพรั่ง ต้องลาจากกองทัพบก ไปขึ้นตำแหน่ง รองปลัดกลาโหม หลังจากนั้นเจ้าของวลี “บังอาจ” ก็เก็บตัวเงียบ จนเกษียณอายุราชการ หายจากสังคม ทีมข่าวนสพ.ST NEWS วิเคราะห์ข่าวการเมือง มองว่า นายทักษิณ ชินวัตร วาสนาชะตายังไม่ขาด ถ้าพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ขึ้นตำแหน่ง ผบ.ทบ.ขณะนั้น คงขุดราก ถอนโคลน นักการเมือง ทุจริต คอรัปชั่น อย่างรัฐบาลทักษิณ ไม่เหลือให้เห็นซากถึงปัจจุบัน สิ่งที่ คมช.ทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่น ชอบธรรมหรือไม่ชอบธรรม ดูจากคำให้การ นช.ทักษิณ ชินวัตร ยอมรับความจริง ว่าได้ทำความผิดจริง ยอมรับคำพิพากษาของศาล

ประวัติ
สพรั่ง กัลยาณมิตร เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2491 ที่ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นบุตรคนที่ 7 ในจำนวน 8 คนของ พันโทศรี (เป็นบุตรของ พระยาสุจริตรักษา (เชื้อ) โดยมีทวด คือ หลวงเดชนายเวร (ทองอยู่) และนางเพ็ญแก้ว กัลยาณมิตร มีชื่อเล่นว่า “เปย” เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 7, โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 18, วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 43 และปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สพรั่ง สมรสกับ วิภาดา กัลยาณมิตร มีบุตรชาย 3 คน คือ พันตรี เอกวีร์ กัลยาณมิตร นาวาอากาศโท อัครวัต กัลยาณมิตร และ เรืออากาศโท เอกวริษฐ์ กัลยาณมิตร

การรับราชการทหาร
สพรั่ง เริ่มรับราชการเมื่อ พ.ศ. 2512 เป็นผู้บังคับหมวดปืนเล็ก ร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมผสมที่ 4 เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4, ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 19, ผู้บังคับการกรม นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร, ผู้บังคับการกรมนักเรียนนายร้อยรักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า สพรั่ง ดำรงตำแหน่งผู้บัญชากองพลกองพลทหารราบที่ 15 เมื่อ พ.ศ. 2540, ตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2546 ,ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2548 ก่อนจะเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ภายหลังการรัฐประหาร เมื่อ พ.ศ. 2549 และเป็นรองปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อ พ.ศ. 2550 ขอไว้อาลัย สดุดี นายทหารผู้จงรักภักดีปกป้องสถาบัน ใครกล่าวโจมตีสถาบันเมือไหร่ นายทหารท่านนี้ จะพูดว่า “บังอาจ” เดี๋ยว…..

“คอลัมน์ กิ้งก่าทอง ”