! “ ชินพัตน์ หู้เต็ม ” สมาชิกพรรคประชาชน ซัดนักการเมืองหลอกลวง ตระบัดสัตย์ ได้อำนาจ ทุจริต โกง ประเทศชาติ :เลือกพรรคประชาชน ทั้งประเทศ แบรนด์นี้ สีส้ม ไม่ซื้อเสียง ชอบ“ ทักษิณ ”ปราศรัย อุดรธานี ควายหายหมด เพราะคนฉลาด ไม่โง่ให้ถูกหลอกตลอดชีวิต

สำนักงานข่าวหนังสือพิมพ์STNEWSรายงานวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 นายชินพัฒน์ หู้เต็ม หรือ ปราย สมาชิกพรรคประชาชน กล่าวกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยหาเสียงช่วยนายสราวุธ เพชรพนมพร หรือ ป๊อบ หมายเลข 2 ทักษิณ ลืมไปว่านี่คือการเมืองท้องถิ่น แต่หาเสียงเรื่องคาสิโน ( Casino ) เรื่องหวยลาว ยาเสพติด แต่ชอบตอนทักษิณ คิดฮอดพี่น้องชาวอุดรฯ หลายเด้อ… จากไป 18 ปีรวยขึ้นหรือไม่ เมื่อก่อนตอนผมอยู่ คนอุดรฯ มีควายหลายตัว แต่วันนี้เหลือกี่ตัว หายหมดแล้วเหลือแต่ชีวิต” กล่าวปราศรัยในพื้นที่ที่คนเสื้อแดงเขาเรียกว่า “เมืองหลวงคนเสื้อแดง” นายชินพัฒน์ กล่าว จะไม่ให้ชาวอดุรธานี ฉลาดได้อย่างไร หาเสียงเลือกตั้ง สส.ประกาศว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร กลุ่ม 3 ป และกลุ่มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ่งทีพูดและหาเสียงไว้ ทำตรงข้ามหมด คนเสื้อแดงผูกใจเจ็บมาก เวลาอยู่ในสภาใส่เสื้อสีเหลือง แต่มาหาเสียงแถวอีสาน กลับใส่เสื้อแดง เวทีแรกทักษิณหาเสียง ขบวนการระดมขนคนสร้างภาพ ส่วน ปชช.เสียงต้อนรับไม่กระหึ่ม @ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. ที่อุดร จะวัดความนิยมอะไรไม่ได้ เพราะมีขบวนการจัดการระดมคนมาฟังมากกว่ามาด้วยความศรัทธาเชื่อมั่น นอกจากนี้ เสียงพูดบนเวทีกลับแผ่วเบาไม่ทรงพลัง ซึ่งคงอายุมากแล้ว ขณะที่เสียงต้อนรับจากประชาชนกลับไม่ดังกระหึ่ม น่าเกรงขาม โดยแสดงออกด้วยอารมณ์ร่วมแบบฝืดๆ

ในคำปราศรัยบางส่วนนั้น ทักษิณพูดไม่ชอบหน้าพวกค้ายาเสพติด พูดถึงการพนันออนไลน์มีการเล่นผ่านโทรศัพท์ทุกระบบถึง 2.5 ล้าน แต่รัฐบาลไม่ปราบอย่างจริงจัง ส่วนตัวเองคิดตั้งบ่อนคาสิโนในไทยถึง 10 แห่งทั่วประเทศ ดังนั้น จะเกิดพนันออนไลน์อีกมากมาย และเกิดอบายมุขตามมา จึงยากจะควบคุมได้

อย่างไรก็ตาม ทักษิณ พูดถึงการศึกษาสร้างคน แต่กลับสร้างบ่อนคาสิโนผลักดันให้เยาวชนเล่นพนันออนไลน์ มีชีวิตสุ่มเสี่ยงเป็นอาชญากรก่ออาชญากรรม ดังนั้น การศึกษาสร้างคนในประเทศที่สร้างบ่อนควบคู่กันไม่ได้ สิ่งนี้แสดงถึงทัศนคติสร้างชาติมีปัญหา

นายชินพัฒน์ กล่าวว่า การกระทำทางการเมืองยุคปัจจุบันสามารถทำให้เกิดจุดเปลี่ยนได้ ยิ่งการตระบัดสัตย์แล้วไม่รับผิดชอบ เกิดนโยบายสุ่มเสี่ยงกระทบต่อเขตแดนและผลประโยชน์ชาติ บางโครงการซ้อนการทำลายชาติ ขายชาติไว้ ฉะนั้นประชาชนควรคิดอ่านถึงการกระทำทางการเมืองเช่นนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้า

อีกทั้งกล่าวว่า ทักษิณขออนุญาตกลับบ้านเพื่อเลี้ยงหลาน กลับใช้โอการสนี้เคลื่อนไหวมวลชน ซึ่งไม่สมควรกระทำ เพราะต้องมีสัจจะวาจาต่อคำพูดของตัวเองด้วย ดังนั้น หากการเมืองไม่มีสัจจะวาจากันเช่นนี้ ย่อมโกหกประชาชนอยู่เรื่อย พฤติกรรมเช่นนี้ประชาชนจึงต้องตื่นตัวทางการเมืองเพื่อถ่วงดุลนักการเมืองไร้สัจจะวาจา

“การเมืองไทยไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย หรือเผด็จการ แต่เป็นระบอบหลอกลวงประชาชนและใช้เงินซื้อคะแนนเสียงเพื่อชัยชนะได้เข้าสู่อำนาจ แล้วใช้อำนาจไปหาเงิน และใช้เงินไปซื้ออำนาจเวียนกันแบบนี้ จึงไม่แปลกที่คิดจะทำบ่อน ทำไมต้องขายคอนโดฯ อยู่ 99 ปี ทำไมต้องดิจิทัลวอลเล็ต และทำไมต้องรีบเจรจาผลประโยชน์ใต้ทะเลก่อนตกลงเขตแดนกัน จึงเห็นได้ชัดว่าเงินคือปัจจัยและเป็นหนทางสู่อำนาจ ซึ่งประชาชนต้องลุกขึ้นมาขัดขวาง”

นายชินพัฒน์“ กล่าวว่า การเมืองในระบอบหลอกลวงเป็นพฤติกรรมที่น่าละอาย หน้าด้าน เพราะสังคมไทยกำลังถูกปั้นให้เห็นผิดเป็นชอบ แค่สัจจะยังเชื่อไม่ได้ แล้วจะเชื่อการใช้จ่ายงบประมาณได้หรือ เรื่องสมบัติชาติจะเชื่อได้หรือ ดังนั้นทักษิณ จะปราศรัยกันกี่ครั้งก็ตาม ก็ให้รีบทำ เพราะหวังว่าสักหนึ่งจะกลับไปรับโทษที่เหลือ 1 ปี

“คนเราพอเสพอำนาจมันไม่สนใจวิธีการ เวลาหนึ่งอาจเห็นประชาชนมีความจำเป็น แต่วันหนึ่งก็เห็นประโยชน์จำเป็น แล้ววันหนึ่งก็กลับไปหาประชาชนเมื่อจำเป็น และพยายามหาเหตุผลใหม่เพื่อจะหลอกกันใหม่อีก ประชาชนก็พร้อมที่จะเชื่อคำหลอกใหม่ เราอยู่กันแบบนี้ไม่ได้”

พร้อมทั้งกล่าวว่า ประชาธิปไตยที่สร้างกันมาไม่แข็งแรงก็เพราะนักการเมืองทำตัวกันแบบนี้ ถ้านักการเมืองมีความทนงองอาจแล้ว หน้าไหนจะมายึดอำนาจ แต่การเมืองแบบคิดนโยบายที่เป็นจุดอ่อนให้ประเทศ ทั้งตั้งบ่อน และรีบเจรจากับกัมพูชาย่อมเห็นชัดเจน

“เวลาที่ได้อำนาจไปนั้น ได้นำไปสร้างคุณประโยชน์ให้ชีวิตใหม่กับประชาชนจริงหรือไม่ เพราะแต่ละโครงการที่เสนอนั้น มีพฤติกรรมขายชาติ ขายแผ่นดิน ดังนั้นคุณควรได้รับเวลาอำนาจนั้นหรือเปล่า ถ้าอยู่ในอำนาจแล้วประเทศเกิดความเสียหายขึ้น วันเดียวก็ไม่ควรจะอยู่”

อีกทั้งกล่าวถึงคำพูดหาเสียงที่อุดร โดยทักษิณย้ำได้กลับมาแล้ว คนอุดรอย่าลืมกันว่า ที่พูดเช่นนี้ เพราะเมื่อยังไม่กลับไทยทักษิณได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากถูกยึดอำนาจ ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่หลังวันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่กลับไทย ความรักความศรัทธากลับเสื่อมทรุดรวดเร็ว ด้วยการเป็นอภิสิทธิชนอ้างป่วยอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไม่ยอมติดคุก กลายเป็นคนสองมาตรฐาน ที่เป็นหลักการต่อสู้ของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553

“ถ้าทักษิณยอมติดคุก และประกาศไม่ข้ามขั้วตั้งรัฐบาลแล้ว ทุกอย่างจะแข็งแรงอย่างยิ่ง เพราะคนที่ออกมาสู้ แล้วตาย เพราะอยากให้ทักษิณกลับบ้าน ต้องการความยุติธรรม ไม่เอาสองมาตรฐาน ไม่เอาแบบอภิสิทธิชน แต่พอได้กลับมาไทยก็ทำสวนทางกับประชาชนต่อสู้ทุกข้อ แล้วเขาจะรู้สึกอย่างไร ดังนั้น ทักษิณ จึงต้องบอกว่า อย่าลืมผม และผมกลับมาแล้ว ทั้งที่กลับมาปีกว่าแล้ว ยังมาบอกว่า ผมกลับมาแล้ว”

นายชินพัฒน์กล่าวว่า วันที่ทักษิณปราศรัยหาเสียงก็เหมือนนักการเมืองทั่วไป ทั้งที่แต่เดิมนั้นมีจุดแข็งสองอย่างคือ จุดยืนประชาธิปไตยและการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเหตุที่ทักษิณ ลงมาช่วยปราศรัยหาเสียง เนื่องจากโพลจัดทำโดย สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มี ศ.ดร.เสกสรร สายสีสด หัวหน้าหลักสูตรนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

เป็นผู้เปิดเผย สำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความคิดเห็นของชาวอุดรธานีที่มีต่อการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567” โดยสอบถามประชาชนในทุกอำเภอของจังหวัดอุดรธานี จำนวน 1,121 คน พบว่า ชาวอุดรธานี สนใจ เลือกเบอร์ 1 นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน คิดเป็นร้อยละ 32.6 รองลงมาคือเลือกเบอร์ 2 นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 15.2 และเบอร์ 3 นายดนุช ตันเทอดทิตย์ ร้อยละ 4.3 และมีชาวอุดรธานี ยังไม่ตัดสินใจ สูงถึงร้อยละ 47.9 ผลโพล ออกมาลักษณะนี้ไม่ถูกใจนักการเมืองสายสีแดง โทรต่อว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สายแทบไหม้ ทางมหาวิทยาลัยได้ตอบแล้ว ไม่ได้ทำนามสถาบัน เป็นของอาจารย์ท่านหนึ่ง “นายชินพัตน์ “ กล่าวว่าจะเห็นภาพ ว่านักการเมือง ต้องการยึดสื่อ นักวิชาการ ในประเทศเข้าไปอยู่ในกลุ่มตนเอง พร้อมเสนอผลประโยชน์ นี่มันยุคไหนแล้วครับ นักการเมืองรุ่นเก่า ขนคนมาฟังปราศรัย ถึงเวลาเปลี่ยนประเทศไทย อย่าลืมเลือกพรรคประชาชน ทั้งประเทศนะครับ เลือกนายก อบจ.และสมาชิก อบจ. พรรคประชาชนเตรียมยกทัพ สส.ฝีปากกล้า เหลือเวลาเพียง 10 วันสู่วันเลือกตั้ง

เหลือเวลาเพียง 10 วันสู่วันเลือกตั้ง

เสาร์นี้ 16 พฤศจิกายน ขอเชิญชวนพี่น้องชาวอุดรธานีร่วมฟังเวทีปราศรัยใหญ่รอบเมืองจากพรรคประชาชน
.
🟠เวทีปราศรัยใหญ่เวทีที่ 1 ตลาดนิยม อ.บ้านผือ
⏱️เวลา 10.30 – 12.00 น.
.
🟠เวทีปราศรัยใหญ่เวทีที่ 2 บ้านนายกบัวเงิน อ.หนองหาน
⏱️เวลา 15.30 – 17.00 น.
.
🟠เวทีปราศรัยใหญ่เวทีที่ 3 หนองประจักษ์ อ.เมือง
⏱️เวลา 17.00 – 19.00 น.
.
🎙️นำการปราศรัยโดย
คณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี เบอร์ 1 จากพรรคประชาชน
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน
ณัฐพงษ์ พิพัฒน์ไชยศิริ สส.อุดรธานี เขต 1 พรรคประชาชน
พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.พรรคประชาชน
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียง
ชัยธวัช ตุลาธน ผู้ช่วยหาเสียง
อภิชาติ ศิริสุนทร ผู้ช่วยหาเสียง
พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียง
อรรถพล บัวพัฒน์ ผู้ช่วยหาเสียง
.
มาร่วมแสดงเจตจำนง เปลี่ยนอุดรให้ก้าวไกล อบจ.รับใช้ประชาชน
24 พฤศจิกายนนี้ กาเบอร์ 1 เลือก “คณิศร ขุริรัง” จากพรรคประชาชน

ข่าว-ธนายุทธ ม่วงขวัญ นสพ.STNEWS