“พ่อเมืองนครศรีธรรมราช ”สนองนโยบายรัฐบาล กวาดล้างหนี้นอกระบบ ยึดรถยนต์ ของกลาง 30 คัน ดำเนินคดี กับนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด เตรียมประสาน ป.ป.ง ยึดทรัพย์
สำนักงานข่าวหนังสือพิมพ์STNEWS ออนไลน์ รายงาน วันที่ 16 มกราคม 2567 ชาวบ้านมีหนังสือร้องเรียนถึง นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่ามีนายทุน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด ท้าทาย นโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำลังกวาดล้างนายทุนดอกเบี้ยโหด ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ แก้หนี้นอกระบบ “ตลาดนัดแก้หนี้ ”ให้หน่วยงานราชการทุกภาคส่วนบูรณาการ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทุกจังหวัดทั่วประเทศต้อง สแกนทุกอำเภอฯว่ามีนายทุน ที่ปล่อยดอกเบี้ยเกินกว่ากฏหมายกำหนดไว้ ให้ขึ้นบัญชีดำไว้ นายขจรเกียรติ ผู้ว่าฯได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงนายทุนดอกเบี้ยโหด ได้ประสานงานทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิการเชิงรุก ล่าสุดได้มีคำสั่งให้
พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สามารถตรวจจับยึดรถของกลาง 30 คัน ที่นายทุนแหล่งเงินกู้ปล่อยดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฏหมายกำหนดไว้ นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล แบบเร่งด่วน ความทุกข์ ความเดือดร้อนของประชาชน ที่นายทุนกลุ่มนี้ หากินกับความทุกข์ของประชาชนมาอย่างยาวนาน ประชาชนก็ไม่กล้ามาร้องเรียนกับหน่วยงานราชการของจังหวัด เพราะเกรงกลัวอิทธิพล หลายกลุ่ม หลายองค์กร มาขอถ่ายรูปกับข้าราชการระดับสูงของจังหวัด ในงานพิธีต่างๆ ผู้ว่าฯเป็นของประชาชน ก็ให้ถ่ายรูปด้วย แต่หลายกลุ่มนำรูปที่ถ่ายกับผู้ว่าฯ ไปติดตามผนังออฟฟิต และทำธุรกิจ ผิดกฏหมาย กลุ่มพวกนี้จะแอบอ้าง ว่ามีความสนิทสนม กับผู้ใหญ่ระดับจังหวัด ขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อกับกลุ่มที่ทำธุรกิจผิดกฏหมาย ถ้ามีใครแอบอ้าง หรือนำรูปข้าราชการที่ถ่ายภาพหมู่ ในงานพิธีต่างๆ ขอให้แจ้งกับผู้ว่าฯได้ที่ทำการศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าว นสพ.STNEWS เกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะมีองค์กร ชมรม สมาคมฯ แอบแฝง เข้ามาทำมาหากินในองค์กรโดยไม่สุจริต และใช้วิธีถ่ายรูปกับนักการเมือง ข้าราชการระดับสูงของจังหวัด และนำไปแอบอ้างว่ามีความสนิทสนม ทำให้ชาวบ้านเกรงกลัวอิทธิพล มีทุกจังหวัด ขอให้ประชาชนอย่ากลัวคนประเภทนี้ ให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทุกจังหวัด ผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารเมือง ใหญ่ที่สุดของจังหวัด ต้องการกวาดล้างกลุ่มหากินโดยไม่สุจริต และยิ่งแอบอ้างข้าราชการระดับสูงของจังหวัดไปหาผลประโยชน์ ด้วยแล้ว ต้องเร่งปราบปรามอย่างเร่งด่วน
ทีมงานข่าวอาชญากรรม นสพ.STNEWS
